1
โปรโมทเว็บ - สินค้าไม่มีหมวดอื่นๆ / เครื่องดูดฝุ่น ผู้ช่วยเพื่อช่วยงานบ้าน
« เมื่อ: ธันวาคม 31, 2018, 10:17:46 AM »
เครื่องดูดฝุ่นนับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านเลยก็เป็นไปได้ ก็เพราะว่าใช้สะดวก คล่องแคล่ว อีกทั้งช่วยให้ลดเวลาในการทำความสะอาดที่พักอาศัยส่งผลให้เกือบทุกๆที่อยู่อาศัยจำเป็นจะต้องมีเครื่องดูดฝุ่นไว้ในที่พัก แต่ว่าการที่จะซื้อเครื่องดูดฝุ่นเพื่อนำมาใช้งานซักเครื่องจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจซื้อให้เหมาะกับการใช้งานดังนั้นมาดูกันว่าจะต้องมีวิธีเพื่อเลือกรวมถึงมีแบรนด์ไหนแนะนำกันบ้าง
ข้อแรกคือ ประเภทของที่ดูดฝุ่น คือเรื่องที่จำเป็นเพราะลักษณะสำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะกับการใช้งานที่ไม่เหมือนกันออกไป เครื่องดูดฝุ่นมีอยู่ 4 ชนิด
1.) เครื่องดูดฝุ่นชนิดแห้ง เหมาะกับการใช้งานในห้องทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมาะสำหรับที่พื้นพรม เพราะแรงในการดูดฝุ่นน้อย
2.) เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย เน้นความคล่องแคล่วสำหรับใช้งาน เพราะว่าต้องชาร์จพลังงานก่อนนำไปใช้งาน รวมถึงเบาใช้ไม่ยาก เหมาะกับห้องที่มีบริเวณน้อย
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกสบายต่อการทำงานในบริเวณเล็กๆ ตัวอย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ช่วยทำความสะอาดอัตโนมัติได้ตามการวางรายการ และยังช่วยให้เข้าถึงบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดได้ง่ายมาก พร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับเครื่องกีดขวางพร้อมกับยางกันชน
อย่างที่สอง สถานที่ในการทำงาน คือประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาเพราะว่าจะคือข้อสำคัญในการเลือกความจุของเครื่องดูดฝุ่น รวมไปถึงบ้านของเรามีมุมอับหรือไม่ หากเลือกเครื่องดูดฝุ่นปริมาตรเล็กเกินพอดีทำให้เครื่องดูดฝุ่นทำงานหนัก ทำความสะอาดได้ไม่ดี รวมถึงส่งผลให้ชำรุดไวมากขึ้น
ประเด็นถัดมา เรื่องของฟังก์ชั่น บวกกับทักษะในการทำความสะอาดของเครื่องดูดฝุ่น ในส่วนนี้ควรพิจารณาตั้งแต่กำลังไฟ โดยจำเป็นต้องต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมต่อการใช้งานเนื่องจากถ้ากำลังไฟน้อยก็ส่งผลต่อแรงในการดูดฝุ่น ถัดมาก็คือพวกโครงสร้างต่างๆ ในแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นก็จะมีโครงสร้างที่ไม่เหมือนกันไป ตัวอย่างเช่น สามารถอัดฝุ่นละอองให้เป็นปึกเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บ หรือไม่ก็มีระบบการกรองหลายขั้นเพื่อที่จะไม่ให้ฝุ่นออกมาจากเครื่อง เป็นต้น เราจึงควรจะพิจารณาว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด
สุดท้ายก็คือ ประเด็นเกี่ยวกับคุณภาพ ราคา รวมทั้งอายุใช้งาน เป็นประเด็นที่ควรคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพและมูลค่าเป็นไปในทางเดียวกันหรือไม่รวมทั้งคุ้มค่าที่จะซื้อเพื่อนำไปใช้หรือเปล่าเพราะว่าสิ่งที่ตามมาก็คืออายุการใช้งานถ้าตัดสินใจของที่ไม่ตรงกับการทำงานไปจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงและยังนับว่าเป็นการเปลืองเงิน
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าจับตามองที่จะนำมาแนะนำ คือ
จะเห็นได้ว่า ยี่ห้อทุกๆยี่ห้อพยายามปรับปรุงพร้อมด้วยใช้เทคโนโลยีล่าสุด เข้าไปเพื่อให้ง่ายแก่ผู้ใช้งาน ดังที่กล่าวมา การตัดสินใจซื้อที่ดูดฝุ่นซักเครื่องให้เหมาะกับการใช้งานเลยไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี
ข้อแรกคือ ประเภทของที่ดูดฝุ่น คือเรื่องที่จำเป็นเพราะลักษณะสำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะกับการใช้งานที่ไม่เหมือนกันออกไป เครื่องดูดฝุ่นมีอยู่ 4 ชนิด
1.) เครื่องดูดฝุ่นชนิดแห้ง เหมาะกับการใช้งานในห้องทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมาะสำหรับที่พื้นพรม เพราะแรงในการดูดฝุ่นน้อย
2.) เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย เน้นความคล่องแคล่วสำหรับใช้งาน เพราะว่าต้องชาร์จพลังงานก่อนนำไปใช้งาน รวมถึงเบาใช้ไม่ยาก เหมาะกับห้องที่มีบริเวณน้อย
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกสบายต่อการทำงานในบริเวณเล็กๆ ตัวอย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ช่วยทำความสะอาดอัตโนมัติได้ตามการวางรายการ และยังช่วยให้เข้าถึงบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดได้ง่ายมาก พร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับเครื่องกีดขวางพร้อมกับยางกันชน
อย่างที่สอง สถานที่ในการทำงาน คือประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาเพราะว่าจะคือข้อสำคัญในการเลือกความจุของเครื่องดูดฝุ่น รวมไปถึงบ้านของเรามีมุมอับหรือไม่ หากเลือกเครื่องดูดฝุ่นปริมาตรเล็กเกินพอดีทำให้เครื่องดูดฝุ่นทำงานหนัก ทำความสะอาดได้ไม่ดี รวมถึงส่งผลให้ชำรุดไวมากขึ้น
ประเด็นถัดมา เรื่องของฟังก์ชั่น บวกกับทักษะในการทำความสะอาดของเครื่องดูดฝุ่น ในส่วนนี้ควรพิจารณาตั้งแต่กำลังไฟ โดยจำเป็นต้องต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมต่อการใช้งานเนื่องจากถ้ากำลังไฟน้อยก็ส่งผลต่อแรงในการดูดฝุ่น ถัดมาก็คือพวกโครงสร้างต่างๆ ในแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นก็จะมีโครงสร้างที่ไม่เหมือนกันไป ตัวอย่างเช่น สามารถอัดฝุ่นละอองให้เป็นปึกเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บ หรือไม่ก็มีระบบการกรองหลายขั้นเพื่อที่จะไม่ให้ฝุ่นออกมาจากเครื่อง เป็นต้น เราจึงควรจะพิจารณาว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด
สุดท้ายก็คือ ประเด็นเกี่ยวกับคุณภาพ ราคา รวมทั้งอายุใช้งาน เป็นประเด็นที่ควรคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพและมูลค่าเป็นไปในทางเดียวกันหรือไม่รวมทั้งคุ้มค่าที่จะซื้อเพื่อนำไปใช้หรือเปล่าเพราะว่าสิ่งที่ตามมาก็คืออายุการใช้งานถ้าตัดสินใจของที่ไม่ตรงกับการทำงานไปจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงและยังนับว่าเป็นการเปลืองเงิน
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าจับตามองที่จะนำมาแนะนำ คือ
- HITACHI ที่ดูดฝุ่นประเภทกล่อง รุ่น CV-SH20V กำลังมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยให้ท่านกำจัดฝุ่นได้การรับรองคุณภาพโดยสถาบันโรคภูมิแพ้ แห่งประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องเก็บฝุ่นไซโคลน ขนาดขนาด 1.6 ลิตร กดอัดฝุ่นกลายเป็นก้อนทำให้สะดวกกับการกำจัด ไม่ฟุ้งกระจาย โดยใช้ระบบกรองฝุ่นละออง 7 ขั้นตอน พร้อมที่กรองเฮป้า บวกกับนาโน ไททาเนียม ดักจับกลิ่น หยุดการเดินเครื่องโดยอัตโนมัติหากเครื่องร้อน สนนราคา 4,190 บาท
- PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่น FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับโหมดในสภาพการณ์รอบๆ ตัว แบตเตอรี่ LI-ION ช่วยให้ใช้งานติดต่อกันมากที่สุด 120 นาที ระบบเก็บกวาด 3 กระบวนการ ที่ประกอบด้วยการเช็ดเก็บฝุ่นประเภทแห้ง หุ่นยนต์ช่วยสำรวจหาบริเวณที่สกปรกมากสำหรับที่จะทำความสะอาดโดยเฉพาะ รวมถึงมีโหมดตรวจจับพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อที่จะเก็บกวาดได้แบบถูกทาง สนนราคา 21,990 บาท
- DYSON ที่ดูดฝุ่นประเภทด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย พร้อมกับการทำงาน ทั่วถึงทุแบบ มีความแข็งแรงคงทน ใช้ง่าย โดยใช้ระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ชั้น ที่จะเพิ่มการไหลวนสำหรับอากาศบวกกับดักจับฝุ่นละอองละอองเล็ก หัวเก็บกวาดแบบ Direct-drive เก็บกวาดตรงเข้าไปกับพรมเพื่อกำจัดรอยเปรอะเปื้อนที่พื้น ในด้าน หัวเก็บกวาดแบบลูกกลิ้งนิ่มออกแบบมาที่เหมาะสำหรับพื้นแข็ง และยังพร้อมกับระบบกลั่นรูปแบบถอดออกทำความสะอาดได้ด้วย ในราคา 28,900 บาท
จะเห็นได้ว่า ยี่ห้อทุกๆยี่ห้อพยายามปรับปรุงพร้อมด้วยใช้เทคโนโลยีล่าสุด เข้าไปเพื่อให้ง่ายแก่ผู้ใช้งาน ดังที่กล่าวมา การตัดสินใจซื้อที่ดูดฝุ่นซักเครื่องให้เหมาะกับการใช้งานเลยไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี